วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

พระหรือฆราวาส

นานมาแล้ว ที่ประเทศอินเดีย มีกษัตริย์องค์หนึ่งต้องการจะรู้ว่า “การเป็นพระหรือฆราวาส สิ่งไหนจะดีกว่ากัน?” พระสงฆ์รูปใดก็ตามที่เข้ามาในประเทศของพระองค์ พระองค์จะนิมนต์พระสงฆ์รูปนั้นมาซักถามคำถามนี้ พระบางรูปก็ตอบว่าเป็นพระนั้นดีกว่าแน่ บางรูปก็ตอบว่าเป็นฆราวาสดีกว่า กษัตริย์ก็ให้พระแต่ละรูปพิสูจน์ เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ กษัตริย์ก็บังคับพระเหล่านั้นให้สึก และแต่งงานมีชีวิตอยู่อย่างฆราวาส

วันหนึ่ง มีพระรูปหนึ่งเข้ามาในประเทศนั้น กษัตริย์ก็ได้ถามคำถามเช่นเดียวกัน พระรูปนี้ได้ตอบว่า...
“ถ้าได้ปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีแล้ว จะเป็นพระหรือเป็นฆราวาสก็ดีทั้งนั้น”

จากนั้นก็ได้ทำการพิสูจน์โดยพากษัตริย์ไปยังประเทศใหญ่อีกประเทศหนึ่ง พอเข้าไปในเมืองหลวง ก็เห็นผู้คนมากมายกำลังชุมนุมกันอยู่ ทั้งสองก็เดินเข้าไปดู ปรากฏว่าพระธิดาของพระเจ้าแผ่นดินในประเทศนั้นกำลังทำพิธีเลือกคู่ พระธิดาเสด็จผ่านพวกชายหนุ่มทั้งหลาย แต่ก็ยังไม่มีใครที่เป็นที่พอพระทัย ทุกคนต่างรู้สึกเสียใจ แต่ในนาทีสุดท้ายได้มีพระหนุ่มรูปงามอีกรูปหนึ่งเดินเข้ามาดูการชุมนุมของประชาชน เมื่อพระธิดาเห็นเข้าก็หลงรักทันที แล้วก็เสี่ยงพวงมาลัยไปยังพระหนุ่มรูปงามนั้น พระหนุ่มได้โยนพวงมาลัยทิ้งและพูดว่า...
“เอ้ย! อะไรกัน ฉันเป็นพระนะ” เมื่อพูดแล้วก็หันหลังเดินออกไป
พระเจ้าแผ่นดินทรงเสด็จตามไปและบอกว่า...
“ครึ่งหนึ่งของพระราชสมบัติจะเป็นของท่าน หากท่านแต่งงานกับลูกสาวของเรา และที่เหลือจะเป็นของท่านหมดเมื่อเราตายแล้ว”
“ฉันไม่สนใจเลย” พระท่านตอบ แล้วก็เดินเข้าป่าไป

พระธิดาได้วิ่งตามพระรูปงามนั้นเข้าไปในป่าด้วยความหลงรัก แต่พระรูปนั้นก็หลบหายไปแล้ว ส่วนพระหนุ่มรูปแรกพร้อมกษัตริย์ที่พามาด้วยก็ได้เดินตามพระธิดาเข้าไปดูเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด พอเห็นพระธิดาร้องไห้อยู่ด้วยความเสียใจ จึงเข้าไปปลอบแล้วบอกว่าจะพากลับไปในเมือง แต่เวลานั้นเป็นเวลาค่ำ จึงพากันไปนั่งใต้ต้นไม้ใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งใจว่าจะค้างคืนอยู่ที่นั่น บนต้นไม้มีพ่อนก แม่นก และลูกนกเล็กๆ อีก 3 ตัว อาศัยอยู่ พ่อนกพูดขึ้นว่า...
“วันนี้เราโชคดีมาก มีแขกเข้ามาอาศัยในบ้านของเรา แต่เดี๋ยวแขกต้องหนาวแน่เลย จะทำยังงัยกันดีล่ะ”
เมื่อพูดเสร็จก็บินออกไปหาไฟ พ่อนกคายไม้ที่ติดไฟอยู่นั้นมาทิ้งไว้ใกล้ๆ แขก แล้วจึงบินไปหาฟืนมากองเอาไว้ จนในที่สุดก็มีกองไฟที่ให้ความอบอุ่นได้ตลอดคืน พ่อนกก็พูดต่อไปว่า...
“แขกของเราจะต้องหิวแน่ๆ ฉันจะสละตัวฉันให้เขารับประทาน”

พูดแล้วก็บินเข้าไปในกองไฟ และฆ่าตัวเองเพื่อให้แขกได้รับประทาน พอภรรยาเห็นเข้าก็นึกว่า แขกมีตั้ง 3 คน แต่มีนกตัวเดียวคงจะไม่พอรับประทาน เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตามสามีลงไปในกองไฟ ลูกๆ ทั้งสามตัวก็คิดเช่นเดียวกัน พูดต่อๆ กันว่า...
“เราจะต้องเสียสละเพื่อแขกของเรา” ว่าแล้วก็กระโดดไปในกองไฟ พระและกษัตริย์มองดูเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง ในที่สุดพระก็พูดกับกษัตริย์ว่า...
“นี่แหละคือข้อพิสูจน์ ถ้าเป็นพระก็ต้องสละโลกจริงๆ
ไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของพระธิดาที่สวยงามที่สุดในโลก และไม่สนใจทรัพย์สมบัติทั้งปวง หากจะเป็นฆราวาสก็ควรจะเป็นแบบครอบครัวนกที่อาศัยอยู่บนต้นไม้นั้น พยายามช่วยเหลือผู้อื่นให้มีความสุข ทำหน้าที่พลเมืองดีต่อสังคม ถึงแม้จะต้องเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง”

ดังนั้น การเป็นพระหรือฆราวาสที่ทำหน้าที่ได้ถูกต้อง เช่นนี้จึงจะถือว่าเป็นบุคคลที่วิเศษที่สุดในโลกใบนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น