วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2552

มองผ่านกระจก

เวลาที่เรามองอะไร เราก็รับเอาภาพของสิ่งนั้น ภาพที่เรามองเห็นเกิดจากการที่มีแสงกระทบเข้ามาสู่ตาของเรา หากเราถามนักวิทยาศาสตร์ว่ามีความชั่วอยู่ในแสงที่มากระทบกับตาของเราหรือไม่ นักวิทยาศาสตร์ก็จะวิเคราะห์ว่า แสงซึ่งเป็นรูปหนึ่งของพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ประกอบด้วยสนามแม่เหล็ก H ที่มีความถี่สูงมาอยู่ตั้งฉากกัน นักวิทยาศาตร์ยืนยันว่า ไม่มีความชั่วปรากฏในสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า แสงเป็นเพียงพลังงานแต่ทำไมเราจึงเห็นความชั่ว ในเมื่อไม่มีความชั่วในแสง แล้วมันอยู่ที่ใดกันล่ะ หากพูดตามเหตุผลแล้ว ถ้าไม่มีความดีเข้ามาสู่ตัวเราแล้ว เราเห็นความไม่ดีนั้นได้อย่างไร แสดงว่าความไม่ดีต้องอยู่ภายในตัวเราอยู่แล้ว เราจะต้องกล้ายอมรับความจริงในข้อนี้ เพื่อที่เราจะได้เอาชนะศัตรูภายในตัวเราได้

มีสามีภรรยาคู่หนึ่ง อาศัยอยู่บ้านหลังใหญ่ ภรรยาจะออกกำลังกายทุกๆ เช้า ในขณะที่เธอออกกำลังกายอยู่นั้น เธอก็จะมองออกไปนอกหน้าต่างและดูเพื่อนบ้านกำลังซักผ้าและตากผ้าอยู่ หลังจากออกกำลังกายแล้ว เธอจึงลงมารับประทานอาหารเช้ากับสามี และเล่าให้สามีฟังว่า...
“ชั้นไม่เข้าใจเลย เพื่อนบ้านของเรานี่ไม่รู้จักวิธีซักผ้าให้สะอาด เสื้อผ้าที่หล่อนซักยังสกปรกอยู่เลย ไม่รู้ว่าเธอใช้ผงซักฟองยี่ห้ออะไรกัน”
สามีก็บอกว่า...
“คุณไปยุ่งเรื่องชาวบ้านเค้าทำไม เราซักผ้าของเราให้สะอาดก็พอแล้ว”
แต่ภรรยาก็ไม่เชื่อฟังสามี เธอจะมองออกไปนอกหน้าต่างทุกเช้าเวลาออกกำลังกาย เพื่อดูเพื่อนบ้านซักผ้าและตากผ้า แล้วก็จะลงมารายงานให้สามีฟัง...
“เพื่อนบ้านของเราซักเสื้อสกปรกอีกแล้วล่ะ”
อยู่มาวันหนึ่ง ภรรยารีบลงมาบอกสามีด้วยความประหลาดใจ...
“นี่คุณ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้เพื่อนบ้านของเราซักผ้าได้สะอาดจริงๆ สงสัยเธอคงจะเปลี่ยนผงซักฟอกที่ใช้อยู่น่ะ สงสัยจังว่าวันนี้เธอซักผ้ายังงัย แหม! ขาวสะอาดจริงๆ”
สามีหัวเราะ และก็บอกว่า...
“คือผมเบื่อเหลือเกินที่คุณมารายงานผมทุกวันๆ ว่าผ้าบ้านโน้นสกปรก เช้านี้ผมตื่นก่อนคุณก็เลยไปเช็ดกระจกหน้าต่าง เมื่อก่อนหน้านี้กระจกหน้าต่างบ้านเราสกปรกมาก แต่วันนี้กระจกสะอาดใสแจ๋ว คุณเลยมองอะไรข้างนอกสะอาดไปหมดนั่นแหละ…”

นี่เป็นบทเรียนที่ยิ่งใหญ่สำหรับเรา ถ้าเราใส่แว่นสีแดง เราก็จะเห็นทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสีแดงไปหมด แท้จริงแล้วทุกสิ่งที่เรามองไม่ได้เป็นสีแดง ถ้าเรานำกล้องถ่ายรุปคุณภาพต่ำไปถ่ายรูปคนที่อยู่ในห้อง ภาพที่ออกมาจะมืด ดูไม่คมชัด เราจะตำหนิคนที่อยู่ในห้องได้ไหมว่า พวกเขาทำให้ภาพไม่ชัด ไม่ได้หรอก ตัวกล้องต่างหากที่ไม่ดี เพราะมันปรับแสงไม่ได้หรือไม่มีตัวปรับภาพชัดอัตโนมัติ แต่ถ้าเรามีกล้องที่มีคุณภาพดี มีตัวปรับแสง มีตัวปรับภาพให้คมชัดอัตโนมัติแล้ว เวลาเราถ่ายรูป ภาพก็จะออกมาดี เห็นหน้าของคนได้ชัดเจน ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่า ตัวรับภาพนี่แหละที่เป็นสิ่งสำคัญ ในทำนองเดียวกัน ประสาทสัมผัสของเรารับข้อมูลจากภายนอก ตัวรับในที่นี้ก็ค้อจิตสำนึกของเรา ถ้าจิตใจของเราสกปรก เราก็จะมองเห็นสิ่งอื่นสกปรกไปด้วย เพราะฉะนั้น เราจึงควรทำความสะอาดจิตใจของเรา ทำให้จิตใจของเราบริสุทธิ์ขึ้น เราก็จะเริ่มมองเห็นสิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่ดี จิตใจของเราก็จะค่อยๆ สูงขึ้นๆ ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น